Intermach 2023

รู้หรือไม่ว่าการใช้พลังงานไฟฟ้าทั่วโลก 10% มาจากกระบวนการผลิตลมอัดในระบบอัดอากาศ (Air compressor) ของทุกโรงงานอุตสาหกรรมทุกประเภท ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก และ Air compressorที่มีอายุการใช้งานเกิน 10 ปีขึ้นไปและไม่ได้รับการบำรุงรักษาเป็นประจำ จะมีอัตราการสึกหรอภายในระบบสูงและอาจก่อให้เกิดการสูญเสียพลังงานไฟฟ้ามากกว่าเดิมถึง 70-80% (ที่มา:กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน) เมื่อเทียบกับการใช้เครื่อง Air compressor ใหม่ เนื่องจาก3 ปัจจัยหลักนั่นคือ ประสิทธิภาพของตัวเครื่องที่ลดลง เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น และการบำรุงรักษาที่สม่ำเสมอ

ปัจจุบัน Air compressor มีเทคโนโลยี การเชื่อมต่อ ระบบ Internet of Thing ที่จะทำการเก็บข้อมูลและผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานได้ทุกทีทุกเวลาผ่าน Notebook, PC, Tablet และ Smart phone ซึ่งจะสามารถแจ้งเตือนหากระบบมีการทำงานผิดปกติ หรือต้องได้รับการบำรุงรักษา ซึ่งจะช่วยเกิดการสูญเสียพลังงานน้อยที่สุด นอกจากนี้ในบางอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อาจมีการนำพลังงานความร้อนในระบบอัดอากาศกลับมาใช้ใหม่ (Compressed Air Heat Recovery) โดยการนำพลังงานความร้อนที่ได้ไปใช้ในงานอุตสาหกรรมอื่นๆเช่น อุตสาหกรรมการชุบเคลือบโลหะ เป็นต้น

การหาเครื่องมือหรือ Air compressor ที่มีประสิทธิภาพและมีเทคโนโลยีขั้นสูง จะช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถวางแผนและควบคุมมาตรฐานในกระบวนการผลิตสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งยังช่วยควบคุมและลดต้นทุนการผลิตได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยเฉพาะในปีนี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของผู้ประกอบการที่ต้องการหาที่ปรึกษามืออาชีพเพื่อการประหยัดพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับอุตสาหกรรมตามแนวคิด BCG ที่เน้นความยั่งยืนในกระบวนการผลิต มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งเพื่อการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมไทย ร่วมกันนำเสนอเทคโนโลยี Air compressor ครบวงจรที่ดีที่สุดภายในงาน อินเตอร์แมค 2023